คนที่รักษาสุขภาพตัวเอง นอกจากการดูแลให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ควรสังเกตอาการผิดปกติของตนเองทุกวัน อาการของโรคร้ายจะมาคุกคามทำลายสุขภาพ โรคมีมากมายหลายโรคซื่งพอจะจำแนกออกได้เป็นกลุ่มคือ โรคติดเชื้อแบคทีเรีย โรคติดเชื้อไวรัส โรคติดเชื้อรา โรคติดเชื้อพยาธิ โรคข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรคระบบอวัยวะสืบพันธุ์ โรคทางหู ตา คอ จมูก โรคของต่อมไร้ท่อ โรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารผิดปกติ โรคทางเดินอาหาร โรคระบบประสาท
1.ปวดศีรษะและอาการทางประสาท
1.ปวดมึนท้ายทอย
มักเป็นตอนตื่นนอนตอนเช้า สักพักอาการจะหายไป อาการนี้เป็นประจำนานๆเข้าจะเป็นมากขี้นและมีอาการอ่อนเพลีย เหนี่อยง่าย ใจสั่น นอนไม่หลับ มือเท้าชา ตามัว โรคที่สามารถป้องกันและรักษาโรคำด้โดยรักษาโรคที่เป็นสาเหตุได้แก่ : เนื้องอกในสมอง ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หลอดเลือดแข็ง ไตวาย หากไม่ทราบสาเหตุก็ดูแลสุขภาพไม่ให้อ้วน เลี่ยงไขมันอื่มตัว งดสุรา บุหรี่ ไม่เครียด ไม่ออกแรงมากเกินไป เเละควรไปวัดความความดัน โลหิตเป็นระยะคนที่ละเลยไม่ดูแลตัวเองอาจมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้แขนขาเป็นอัมพาต พูดไม่ได้ัและเสียชีวิต
2.ปวดศรีษะข้างเดียว
ปวดศรีษะข้างเดียวเป็นๆ หายๆ ปวดตุ้บๆ บ่อยๆ คลื่นไส้ อาเจียนบ่อย ความรุนแรงของอาการปวดแต่ระครั้งมันแตกต่างกัน เวลาที่ปวดมันขื้นกับสิ่งกระตุ้น อาจเป็น ไมเกน บางรายเห็นแสงแวบมาก่อนแล้วจื่งปวด บางคนมีอารมณ์เครียดก่อนแล้ว จี่งปวดศรีษะ สี่งที่กระตุ้นให้ปวดก็คือความเครียด พักผ่อนไม่พอ กินผงชูรสมากไปเกินไป เมื่อตรวจรสภาพร่างกายไม่พบสี่งผิดปกติ ผลตรวจทางห้องปฎิบัติการปกติ รักษาด้วยการกินยาแก้ปวด ยาแก้อาเจียน นอนพักผ่อนและพยายามผ่อยคลายเมื่อมีความเครียด บางรายปวดศรีษะตุ้บๆจากความดันโลหิตสูง
3.ปวดศรีษะบ่อยๆ
ที่ขมับ 2 ข้างหน้าผาก ท้ายทอย เหมือนมีอะไรมาบีบรัดจนหนักหัว เพราะมรการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบรีเวณศรีษะ ต้นคอ ขากรรไกร โดยไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนปวดเป็นเวลานาน ส่วนใหย่จะหายเมื่อผ่านไป 1 – 4 ชั่วโมง พอหายเครียดทางกายหรือทางอารมณ์อาการปวดก็จะหายไป อาจมีอาการเเน่นอกด้วย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง นอนหลับยาก เวลานอนไม่หลับไม่มีอาการปวดแสดงว่า เกิดจากความเครียด อาการเป็นอยู่อย่างนี้แรมเดือน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักปวดศรีษะจากความเครียดเมื่อตรวจสภาพทั่วไปไม่พบสิ่งผิดปกติ การรักษากินยาแก้ปวด พักผ่อนให้คลายเครียดทางกายและอารมณ์